ท่อนที่ 1 ได้เกริ่นนำไปบ้างแล้วถึงแน
มาโม้ต่อกันอีก เรื่อง พุทธศาสนา 5,000 ปี โม้ถึงไหนแล้วหนอ…หุหุหุ เรื่อง ศาสนา 5,000 ปี นี้ หากค้นลงไปในพระไตรปิฏก
เราจะไม่เจอคำกล่าวตรัส จากองค์พระพุทธชินสีห์ พระพุทธองค์ท่านไม่ได้กล่าว
เพราะที่เหล่าท่านมหาเปรียญ
แต่เมื่อได้รับการอธิฐานจิต
ในสมัยหนึ่ง.. เมื่อพระนาง ปชาบดีโคตมี ได้นำเหล่าผู้ติดตาม 500 คน โกนหัวเพื่อขอบวช แต่พระพุทธองค์ ไม่ทรงอนุญาติ
พระอานนท์เจ้า จึงได้สอบถามถึงสาเหตุ ว่าเป็นเพราเหตุใด พระอานนท์ถามว่า ผู้หญิง ปฏิบัติธรรมไม่ได้หรือ พระพุทธองค์ ทรงตรัสว่า ปฏิบัติได้
แล้วผู้หญิงบรรลุธรรมไม่ได้
นี่พระอานนท์ เป็นนักสิทธิ์แก่สตรีเลยนะ ผู้หญิงคงรักท่านมากขึ้น เพราะท่านเรียกร้องสิทธิ์ให
หากให้มาตุคาม คือผู้หญิง เข้ามาบวชใน สัจธรรมที่พระพุทธองค์ได้ปร
อานนท์เอ๋ย.. เหมือนบ้านหลังหนึ่ง ที่มีสตรี เมื่อบุรุษไม่อยู่ โจรย่อมเข้ารุกราน เพราะมีมาตุคามเป็นเหตุ และก็ได้สาธยายเปรียบเปรยใน
เพื่อให้พระอานนท์ฟัง แต่พระอานนท์ ก็ได้ยกเหตุผล ของความเป็นญาติ ความเป็นแม่นมที่ได้ดูแลพระ
ภายหลัง พระพุทธองค์ได้ทรงอนุญาติ แต่มีข้อแม้ว่า มาตุคามทั้งหลาย จะต้องรักษา คุรุธรรมแปดประการ ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงบัญญัติขึ้น
เมื่อพระอานนท์ ได้ไปบอกกล่าวพระนางปชาบดี เธอก็ยินดีรับกฏคุรุธรรมแปด
ขอให้พระนางได้บวชอยู่ในสัจธรรมที่พระพุทธองค์ ประกาศเถิด เมื่อพระอานนท์กลับมากราบทู
ดูกร…อานนท์ เมื่อมาตุคามเข้ามาบวชในสัจธรรมที่พระพุทธองค์ได้ประก
แต่เมื่อได้บัญญัติคุรุธรรม
นี่….เหตุแห่ง 5,000 ปี ของพุทธศาสนาเริ่มจากจุดตรง
แต่เหตุแห่งพุทธศาสนา 5,000 ปี เริ่มต้นจากจุดนี้.. คราวนี้ พวกอรรถาจารย์ ผู้เป็นปราช์ญ์ทั้งหลายนี่แ
ดันเป็นพวกนอกศาสนา ที่จบไตรเพททั้งนั้น ได้เข้ามาบวช และได้ถกเถียงธรรมกัน เมื่อเกิดการอธิบายประวัติล
ว่าเรื่องที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสนัยยะแห่งอายุพุทธศา
ต่างก็ตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องอายุพุทธศาสนานี้ มันต้องมี “นยัตถะ” คำๆ นี้ก็หมายความว่า เป็นคำหรือเป็นสิ่งที่ต้องอ
แต่เรื่องนี้ ได้พูดคุยกัน ในยุคของพระเจ้าอโศก ที่พุทธศาสนาล่วงเลยมาแล้วก
ซึ่งเป็นเรื่องแต่ง ของอรรถาจารย์ เพื่อแก้ต่างข้อขัดแย้งในพร
เดี๋ยวค่อยโม้ตอนท้ายๆ นี่จะค่อยๆ เรียบเคียงไป จะได้รู้ได้ถึงเหตุและผล ที่มาและที่ไป จะได้ไม่โง่กันอีกต่อไป คึคึ เพราะหนังสือมิลินทปัญหา
แต่งในยุคของพระเจ้า อโศก คือหลังพุทธศาสนาประมาณ 500 ปี แม้แต่ หนังสือวิสุทธิมรรค ที่แต่งโดย พระพุทธโฆษาจารย์
ที่มหาเปรียญ 9 นำมาแปลสอบ ก็แต่งโดยอาศัยหนังสือมิลิน
เมื่อพุทธศาสนา ล่วงมาแล้ว 900 ปี ก่อนในยุคนั้น ท่านใช้ สันสกฤต ไม่ใช่ใช่บาลี พระพุทธโฆษาจารย์ ไปเปลี่ยนเป็นบาลีที่หลัง
เราจึงยึดบาลีมาเป็นแบบแผนต
อายุของพุทธศาสนา แค่ 1,000 ปี เพราะมาตุคามเข้ามาบวชแล้ว เหลือ 500 ปี และกลับไปเป็น 1,000 ปี เท่าเดิม เพราะอาศัย คุรุธรรมแปดประการเข้ามาสะก
คงไม่ใช่ความหมายว่า อายุพุทธศาสนา มีแค่ 1,000 ปี แต่ที่ทรงกล่าว 1,000 ปี เป็นพุทธประสงค์ ให้ทราบว่า หลังพระพุทธองค์ทรงปรินิพพา
สัจธรรมที่ประกาศไว้ จะมีผู้บรรลุธรรม ที่เป็นพระอรหันต์ในขึ้น ปฏิสัมภิทาญาณ เพียงแค่ 1,000 ปี หลังจากนั้นแล้ว จะไม่มี พระอรหัต์ ปฏิสัมภิทาญาณ
เมื่อสิ้น 1,000 ปี ถัดจากนั้น ใน 1,000 ปีที่สอง จะเหลือแค่ พระอรหันต์ สุขวิปัสโก คือมีปัญญาบรรลุธรรม แต่ไม่มีฤทธิ์
เมื่อหมด 1,000 ปี ที่สอง อีก 1,000 ปีต่อมา เป็น 1,000 ปีที่มีแค่ พระอนาคามี นี่คือ 1,000 ปี ที่สาม หรือยุคเรานี้ เมื่อขึ้น 1,000 ปี ที่สี่
ก็จะเหลือแค่ พระสกิทาคามี เมื่อขึ้น 1,000 ปี ที่ห้า ก็จะเหลือแค่ พระโสดาบัน หลังจาก 5,000 ปีไปแล้ว จะไม่มีพระอรหันต์ อีกแล้ว
คงเหลือแค่นักบวช เป็นปฏิเวทอันตธาน คือ พระอรหันต์ จะอันตธานไปจากโลก ต่อไปอีก ปฏิบัติที่เหล่าสงฆ์พากระทำ
ก็เริ่มอันตธาน เพราะปฏิบัติยังไงก็ไม่บรรล
ที่สุดก็เหลือแต่สงฆ์ จากนั้น สงฆ์ก็อันตธานอีก ที่สุดก็เหลือแค่เรื่องเล่า
พระพุทธศาสนาของพระบรมครู ของเรา พระสมณโคดม เรียกว่า 1 พุทธันดร พุทธศาสนาก็จะเว้นช่วงไป ตามเหตุปัจจัย
นับเป็น อัตตกัปป์ หรือหลายๆ อัตตกัปป์ จึงจะเป็นยุคของพระศรีอารีย
นี่…เป็นคำอธิบายพอคร่าวๆ
ที่แปลความหมาย แยกออกไปอีก ในเรื่องของอายุพุทธศาสนา 5,000 ปี เดี๋ยวเรามาโม้กันต่อ มันมีหลายเวอร์ชั่นว่ะ เดี๋ยวข้าต้องพักก่อน
เขาจะพาไปดูอะไรหน่อย คึคึคึ มันมี เวอร์ชั้นที่ 2,3,4,5 อะไรออกไปอีกเยอะแยะ โม้ไม่หมดหรอก แต่จะโม้อีกของอรรถาจารย์อี
พระธรรมเทศนา ผ่าน Facebook ณ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๖
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง